วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตรีเอกานุภาพ

    

    ในพันธสัญญาใหม่ พระเยซูทรงใช้สรรพนามพระองค์ว่า "เรา" และมื่อตรัสถึงพระองค์กับพระบิดา ก็ใช้คำว่า "เรา" เหมือนกัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดของพระองค์กับพระบิดาว่าทรงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน


พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "ถ้าผู้ใดรักเรา(Me) ผู้นั้นจะรักษาคำของเรา(My Word) และพระบิดาของเรา(My Father)จะทรงรักเขา แล้วพระบิดากับเรา(and We)จะมาหาเขาและเราจะอยู่กับเขา(and make 0ur home with him)  (ยน. 14:23 [ThaiKJV])
 
เรา​(I)บอก​ความ​จริง​กับ​ท่าน​ว่า เรา​(We)พูด​สิ่ง​ที่​เรา​รู้ และ​เป็น​พยาน​ถึง​สิ่ง​ที่​เรา(We)​เห็น แต่​พวก​ท่าน​ไม่​ยอมรับ​คำ​พยาน​ของ​เรา(Our) ไม่  (ยน. 3:11 )

บัดนี้ข้าพระองค์จะไม่อยู่ในโลกนี้อีก แต่พวกเขายังอยู่ในโลกนี้ และข้าพระองค์กำลังจะไปหาพระองค์ ข้าแต่พระบิดาผู้บริสุทธิ์ ขอพระองค์ทรงโปรดพิทักษ์รักษาบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ไว้โดยพระนามของพระองค์ เพื่อเขาจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เหมือนดังข้าพระองค์กับพระองค์(just as We are)  (ยน. 17:11 [ThaiKJV])

     พระตรีเอกานุภาพทรงเป็นหนึ่งเดียวและพระเจ้าองค์เดียวกัน ทรงประกอบด้วย พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระบุตรได้ถูกส่งลงมาในโลกโดยพระบิดา ด้วยจุดประสงค์ในการช่วยมนุษย์ให้พ้นจากความบาป พระวิญญาณบริสุทธิ์ คือพระวิญญาณของพระบิดาและพระบุตร พระเจ้าทรงทำงานในมนุษย์โดยทางวิญญาณ

ซึ่งทรงเลือกไว้แล้วตามที่พระเจ้าพระบิดาได้ทรงล่วงรู้ไว้ก่อน โดยพระวิญญาณได้ทรงชำระ ให้บังเกิดความนบนอบเชื่อฟัง และให้รับการประพรมด้วยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ขอให้พระคุณและสันติสุขบังเกิดทวีคูณแก่ท่านทั้งหลายเถิด  (1ปต. 1:2 [ThaiKJV])

และเราทั้งหลายได้เห็นและเป็นพยานว่า พระบิดาได้ทรงใช้พระบุตรให้เสด็จมาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลก  (1ยน. 4:14 [ThaiKJV])

เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์  (มธ. 28:19 [ThaiKJV])
 
 
 
 


 
 
 
 

 


พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสามพระภาคของพระองค์มีหน้าที่ต่างกันและประสานงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายในขอบเขตของความเป็นพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นปัจจุบันอยู่เป็นนิตย์ และทรงมีอำนาจเด็ดขาดโดยไม่จำกัด ถึงแม่จะทรงแยกเป็นสามพระภาค

เพื่อปฏิบัติงานตามพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ทรงรู้และสัมผัสพระองค์เองได้ นั่นคือ ความที่รู้ว่าทรงดำรงอยู่ รู้ในการสำแดงและปรากฎตัวของพระองค์ รู้ในพระดำริ และความเคลื่อนไหวในการทำงานของพระองค์ภายในขอบเขตของความเป็นพระเจ้าในตัวของพระองค์อย่างสมบรูณ์ครบถ้วน
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น